ถังแตกเป็นปัญหาที่พบเห็นในหลายสถานที่ เช่น โรงงานอุตสาหกรรม สถานที่จัดเก็บสารเคมี หรือที่เกิดการเก็บน้ำ การเกิดถังแตกนั้นอาจส่งผลกระทบให้เกิดอันตรายแก่คนและสิ่งแวดล้อม ในบทความนี้เราจะศึกษาถึงสาเหตุของการเกิดถังแตก วิธีการป้องกันและการแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากถังที่แตก
สาเหตุของการเกิดถังแตก
สาเหตุของการเกิดถังแตกเป็นเรื่องที่ควรให้ความสำคัญและต้องให้ความสำคัญในการทำความเข้าใจ การเกิดถังแตกเป็นเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นได้ทั้งในถังน้ำมัน ถังเก็บน้ำ หรือถังเก็บสารเคมี และมักเกิดขึ้นจากหลายสาเหตุที่ต้องมาทำความรู้จักและตระหนักในแต่ละสาเหตุดังนี้
สาเหตุแรกคือการออกแรงดันสูงในถัง ที่มาจากการเก็บของเหลวหรือก๊าซที่มีความดันสูง อาจทำให้เกิดการแตกในผนังถัง หากไม่มีการควบคุมและเช็คความดันอย่างต่อเนื่องอาจส่งผลกระทบให้ถังเกิดอาการขาดแคลนความแข็งแรง ทำให้เกิดเหตุการณ์ที่ถังแตกและส่งผลอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมและคนในบริเตนที่ใกล้เคียง
สาเหตุที่สองคือความเสียหายของวัสดุถัง เนื่องจากผลิตจากวัสดุที่ไม่คุณภาพหรือมีข้อผิดพลาดในกระบวนการผลิต หรืออาจเกิดจากการสะสมความเสียหายต่างๆ ซึ่งสามารถก่อให้เกิดการแตกในถังได้ ในกรณีนี้ การตรวจสอบความสมบูรณ์ของวัสดุและความเสียหายอย่างใกล้ชิดจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง
สาเหตุที่สามคือสภาพแวดล้อมที่แสดงความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เช่น อุณหภูมิสูง หรือการสะสมความร้อนหรือความเย็นเกินไป ซึ่งอาจเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้ถังแตก การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของสิ่งแวดล้อมที่อยู่ในถัง สามารถทำให้เกิดการขยายหรือหดของถัง ซึ่งอาจทำให้ถังมีแรงต้านทานที่เกิดขึ้นในขณะเดียวกัน และทำให้ถังแตกอย่างไม่คาดคิด
สุดท้าย การเสียความสำคัญในการตรวจสอบและดูแลถังเพื่อป้องกันการเกิดถังแตกมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อลดความเสียหายและควบคุมความเสี่ยงให้อยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ การตรวจสอบสภาพแวดล้อมและสภาพของถังเป็นสิ่งที่ควรทำอย่างสม่ำเสมอ และหากพบข้อผิดพลาดหรือความเสียหาย ควรดำเนินการแก้ไขทันทีเพื่อป้องกันเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต การติดต่อผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้และความชำนาญในการจัดการกับถังที่แตกเป็นสิ่งที่ควรทำเสมอเพื่อให้การแก้ไขเป็นไปอย่างถูกต้องและปลอดภัยยิ่งขึ้น
ความเสียหายที่อาจเกิดจากถังแตก
ความเสียหายที่อาจเกิดจากถังแตกเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างน่าเชื่อถือและสามารถส่งผลกระทบให้กับสิ่งแวดล้อมและคนในบริเตนที่ใกล้เคียง ถึงแม้ว่าการเกิดถังแตกอาจเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้หลายสาเหตุ แต่ความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นสามารถรวมถึงข้อดีต่อไปนี้:
- อันตรายต่อคน: เมื่อถังแตกอาจเกิดความเสี่ยงต่อคนที่อยู่ในบริเตนที่ใกล้เคียง อาทิเช่น ถ้าเป็นถังเก็บสารเคมีที่แตก อาจเกิดการรั่วไหลของสารเคมีที่อาจเป็นอันตรายต่อคนที่อยู่ใกล้เคียง
- ความเสียหายทางเศรษฐกิจ: ถังที่แตกอาจส่งผลให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจที่มีค่าใช้จ่ายสูง เนื่องจากต้องดำเนินการแก้ไขหรือส่งซ่อมถังให้กลับมาทำงานได้ตามปกติ นอกจากนี้ยังสามารถส่งผลกระทบต่อการผลิตและการให้บริการที่เกี่ยวข้องกับถังนั้น ๆ ด้วย
- ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม: ถังที่แตกอาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในบริเตนที่ใกล้เคียง อาทิเช่น ถ้าถังเก็บน้ำที่แตกอาจทำให้น้ำรั่วไหลและมีผลกระทบต่อระบบน้ำที่อยู่ใกล้เคียง
- การขัดข้องในกระบวนการ: ถังที่แตกอาจทำให้เกิดการขัดข้องในกระบวนการในโรงงานหรือสถานที่ที่ใช้ถังนั้น ๆ ในการจัดเก็บหรือผลิตสิ่งของ
- ความเสียหายทางชีวภาพ: ในกรณีที่ถังเก็บสารอาหารหรือของเสียที่มีความเสี่ยงต่อสิ่งมีชีวิต ถังที่แตกอาจส่งผลกระทบให้เกิดความเสียหายทางชีวภาพที่ไม่น่าพอใจ
ในทางกลับกัน การตรวจสอบและดูแลถังเพื่อป้องกันการเกิดถังแตกมีความสำคัญอย่างยิ่ง การตรวจสอบความสมบูรณ์ของวัสดุและสภาพของถังเป็นสิ่งที่ควรทำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดความเสียหายและควบคุมความเสี่ยงให้อยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ และหากพบข้อผิดพลาดหรือความเสียหาย ควรดำเนินการแก้ไขทันทีเพื่อป้องกันเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
วิธีการตรวจสอบถังเพื่อควบคุมความเสี่ยง
วิธีการตรวจสอบถังเพื่อควบคุมความเสี่ยงเป็นขั้นตอนที่สำคัญในการรักษาความปลอดภัยและป้องกันเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นจากถังที่แตก การตรวจสอบเหล่านี้มีความหมายในการตรวจสอบสภาพแวดล้อมและสภาพของถังเพื่อควบคุมความเสี่ยงให้อยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ ซึ่งสามารถทำได้ด้วยขั้นตอนดังนี้:
- การตรวจสอบสภาพภูมิอากาศ: การตรวจสอบสภาพอากาศที่อยู่ในบริเตนที่ใกล้เคียงถังเป็นสิ่งที่สำคัญ อากาศที่มีอุณหภูมิสูงหรือสูงเกินไปอาจทำให้ถังขยายหรือหดของถัง และทำให้เกิดการแตก
- การตรวจสอบความเสียหายของถัง: การตรวจสอบถังอย่างใกล้ชิดเพื่อตรวจสอบว่ามีความเสียหายหรือข้อผิดพลาดที่อาจเป็นปัจจัยในการเกิดถังแตก อาทิเช่น การแตกหรือการที่ผนังถังมีรอยร้าว
- การตรวจสอบความแข็งแรงของถัง: ตรวจสอบความแข็งแรงของผนังถังเพื่อให้มั่นใจว่าถังมีความแข็งแรงเพียงพอในการรับแรงดันที่เกิดขึ้นในถัง
- การตรวจสอบระบบน้ำ: หากเป็นถังเก็บน้ำ ควรตรวจสอบระบบน้ำที่อยู่ใกล้เคียงถังเพื่อตระหนักถึงสภาพน้ำและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นในกรณีที่ถังเกิดอาการแตก
- การตรวจสอบระบบกันเหตุการณ์: ควรตรวจสอบระบบกันเหตุการณ์ที่ถูกติดตั้งในถังเพื่อรับมือกับเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้น เช่น ระบบกันไฟฟ้าหรือระบบกันสั่นสะเทือน
- การตรวจสอบการรั่วไหล: ควรตรวจสอบการรั่วไหลของสารเคมีหรือน้ำที่เก็บอยู่ในถัง เพื่อป้องกันอันตรายในกรณีที่สารหรือน้ำรั่วไหลออกมาจากถัง
- การตรวจสอบระบบการทำงาน: ตรวจสอบการทำงานและการใช้งานของถังอย่างสม่ำเสมอเพื่อตระหนักถึงสภาพแวดล้อมและสภาพแรงต้านที่มีผลต่อถัง
การตรวจสอบและดูแลถังเพื่อควบคุมความเสี่ยงเป็นการปฏิบัติที่สำคัญที่ต้องทำเสมอ เพื่อให้ทำความเข้าใจและตระหนักถึงสภาพแวดล้อมและสภาพของถังอย่างเพียงพอ และในกรณีที่พบข้อผิดพลาดหรือความเสียหาย ควรดำเนินการแก้ไขทันทีเพื่อป้องกันเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต การติดต่อผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้และความชำนาญในการจัดการกับถังที่แตกเป็นสิ่งที่ควรทำเสมอเพื่อให้การแก้ไขเป็นไปอย่าง
วิธีการป้องกันการเกิดถังแตก
วิธีการป้องกันการเกิดถังแตกเป็นเรื่องที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการรักษาความปลอดภัยและควบคุมความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากถังที่แตก การป้องกันเหล่านี้เป็นขั้นตอนที่ต้องทำให้ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นต่ำลง และสามารถทำได้ด้วยเหตุการณ์ต่อไปนี้:
- การเลือกวัสดุถังที่มีคุณภาพ: การเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพและมีมาตรฐานที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานเป็นสิ่งที่สำคัญ ต้องคำนึงถึงความแข็งแรงและความทนทานของวัสดุในการรับแรงดันและสภาพแวดล้อมต่าง ๆ
- การตรวจสอบความเสียหายของถัง: การตรวจสอบถังอย่างใกล้ชิดเพื่อตรวจสอบว่ามีความเสียหายหรือข้อผิดพลาดที่อาจเป็นปัจจัยในการเกิดถังแตก ต้องมีการตรวจสอบและเช็คสภาพของถังเป็นประจำเพื่อระบุความเสี่ยงและดำเนินการแก้ไขตามความเหมาะสม
- การบำรุงรักษาถัง: การดูแลและทำการบำรุงรักษาถังอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งที่สำคัญในการรักษาความแข็งแรงและสภาพของถัง เพื่อลดความเสียหายและเสริมความแข็งแรงของถัง
- การตรวจสอบการใช้งาน: ต้องตรวจสอบการทำงานและการใช้งานของถังอย่างสม่ำเสมอ เพื่อตระหนักถึงสภาพแวดล้อมและสภาพแรงต้านที่มีผลต่อถัง และดำเนินการแก้ไขทันทีเมื่อพบข้อผิดพลาดหรือความเสียหาย
- การปรับความดันในถัง: ถ้าถังเก็บน้ำหรือก๊าซที่มีความดันสูง ควรปรับความดันในถังให้อยู่ในเกณฑ์ที่ปลอดภัย เพื่อลดโอกาสในการเกิดถังแตก
- การติดตั้งระบบกันเหตุการณ์: ควรติดตั้งระบบกันเหตุการณ์ที่เหมาะสมในถังเพื่อรับมือกับเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้น เช่น ระบบกันไฟฟ้าหรือระบบกันสั่นสะเทือน
- การศึกษาและการฝึกอบรม: การศึกษาและการฝึกอบรมพนักงานในการทำงานกับถังเพื่อเพิ่มความรู้และความเข้าใจในการป้องกันการเกิดถังแตก และการรับมือกับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น
การปฏิบัติตามขั้นตอนการป้องกันเหล่านี้เป็นเรื่องที่สำคัญในการรักษาความปลอดภัยและป้องกันเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นจากถังแตก การติดต่อผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้และความชำนาญในการจัดการกับถังที่แตกเป็นสิ่งที่ควรทำเสมอเพื่อให้การปฏิบัติเป็นไปอย่างถูกต้องและปลอดภัยยิ่งขึ้น
การดูแลและบำรุงรักษาถังเพื่อลดความเสียหาย
การดูแลและบำรุงรักษาถังเพื่อลดความเสียหายเป็นขั้นตอนที่สำคัญและมีความสำคัญในการรักษาความปลอดภัยและควบคุมความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากถังที่แตก การดูแลและบำรุงรักษาถังเหล่านี้เป็นขั้นตอนที่ต้องทำให้ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นต่ำลง และสามารถทำได้ด้วยเหตุการณ์ต่อไปนี้:
- การตรวจสอบประจำ: ควรตรวจสอบถังอย่างประจำตามช่วงเวลาที่กำหนด เพื่อตรวจสอบสภาพแวดล้อมและสภาพของถัง เช่น การตรวจสอบการรั่วไหลของสารเคมีหรือน้ำที่อยู่ในถัง การตรวจสอบความแข็งแรงและความทนทานของวัสดุถัง เป็นต้น
- การทำความสะอาด: ควรทำความสะอาดถังอย่างสม่ำเสมอเพื่อกำจัดสิ่งสกปรกและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นในถัง การทำความสะอาดจะช่วยให้ถังมีอายุการใช้งานที่ยาวนานและลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น
- การเปลี่ยนตัวกรอง: ถ้าถังเก็บสารเคมีหรือน้ำที่ใช้ตัวกรอง ควรเปลี่ยนตัวกรองอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้สารเคมีหรือน้ำคงความสะอาดและประสิทธิภาพในการทำงาน
- การทำฉีดน้ำแรงดัน: หากเป็นถังเก็บน้ำหรือก๊าซที่มีความดันสูง ควรทำฉีดน้ำแรงดันในถังเพื่อลดความร้อนที่เกิดขึ้นและลดโอกาสในการเกิดถังแตก
- การติดตั้งระบบกันเหตุการณ์: ควรติดตั้งระบบกันเหตุการณ์ที่เหมาะสมในถังเพื่อรับมือกับเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้น เช่น ระบบกันไฟฟ้าหรือระบบกันสั่นสะเทือน
- การศึกษาและการฝึกอบรม: การศึกษาและการฝึกอบรมพนักงานในการดูแลและบำรุงรักษาถังเพื่อเพิ่มความรู้และความเข้าใจในการลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น
การดูแลและบำรุงรักษาถังอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งที่สำคัญในการรักษาความแข็งแรงและสภาพของถัง ทำให้เกิดความเสียหายน้อยลงและลดโอกาสในการเกิดถังแตกที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต
วิธีการแก้ไขถังที่แตกอย่างถูกต้อง
เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ถังแตก การแก้ไขอย่างถูกต้องและมีความรวดเร็วเป็นสิ่งที่สำคัญเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นต่อไป ขั้นตอนการแก้ไขที่ถูกต้องได้แก่:
- ปฏิบัติการตามมาตรการเร่งด่วน: หากเกิดเหตุการณ์ถังแตกอย่างไม่คาดคิด การดำเนินการตามมาตรการเร่งด่วนเป็นสิ่งที่สำคัญ โดยให้เร่งด่วนในการป้องกันความเสียหายให้มากที่สุด
- การจัดการเกี่ยวกับสารอันตราย: ถ้าถังเก็บสารเคมีที่แตก จำเป็นต้องจัดการกับสารอันตรายที่อาจรั่วไหลออกมาจากถังโดยใช้อุปกรณ์และการป้องกันความเสี่ยงในการจัดการ
- การหยุดการใช้งานของถัง: หากถังแตกจำเป็นต้องหยุดการใช้งานของถังทันทีเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการทำงานต่อไป
- การบริหารจัดการเหตุการณ์: ควรมีการบริหารจัดการเหตุการณ์ที่ถังแตกอย่างเป็นระบบเพื่อให้การแก้ไขเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
- การสำรวจสภาพความเสียหาย: ควรทำการสำรวจสภาพความเสียหายของถังเพื่อตระหนักถึงสาเหตุและขอบเขตของความเสียหายที่เกิดขึ้น
- การดำเนินการซ่อมแซม: หากเสียหายที่ถังไม่รุนแรง อาจจะมีการดำเนินการซ่อมแซมที่เหมาะสมเพื่อกลับคืบควบคุมถังให้กลับมาทำงานได้ตามปกติ
- การตรวจสอบความปลอดภัย: หลังจากการแก้ไขถังแตก ควรทำการตรวจสอบความปลอดภัยของถังอย่างเคร่งครัดก่อนที่จะเริ่มใช้งานอีกครั้ง
การดำเนินการแก้ไขถังที่แตกอย่างถูกต้องจำเป็นต้องมีการวางแผนและดำเนินการอย่างรอบคอบและรวดเร็วเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ทั้งนี้ควรให้ความสำคัญในการดำเนินการเพื่อความปลอดภัยและควบคุมสภาพให้ทันสถานการณ์ หากสงสัยหรือไม่มั่นใจในการแก้ไข ควรขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างถูกต้องและปลอดภัยยิ่งขึ้น
ความสำคัญของการติดต่อผู้เชี่ยวชาญในกรณีเกิดเหตุการณ์ถังแตก
ความสำคัญของการติดต่อผู้เชี่ยวชาญในกรณีเกิดเหตุการณ์ถังแตกเป็นเรื่องที่ท้าทายและมีความสำคัญอย่างยิ่งในการรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น การติดต่อผู้เชี่ยวชาญเป็นการแสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบและความใส่ใจในการแก้ไขเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และมีประสิทธิภาพในการดำเนินการด้านการแก้ไขของผู้เชี่ยวชาญที่มีความชำนาญและความรู้เกี่ยวกับถังแตก สามารถสร้างความมั่นใจและความเชื่อมั่นให้กับเจ้าของถังและประชาชนที่อาจได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นั้น ๆ การติดต่อผู้เชี่ยวชาญในกรณีเกิดเหตุการณ์ถังแตกสามารถทำได้ด้วยเหตุการณ์ต่อไปนี้:
- การให้คำปรึกษาและคำแนะนำ: ผู้เชี่ยวชาญสามารถให้คำปรึกษาและคำแนะนำเกี่ยวกับการแก้ไขและการจัดการกับถังที่แตกให้กับเจ้าของถัง เพื่อช่วยให้เกิดการรับรู้และการเข้าใจในกระบวนการแก้ไขที่ถูกต้อง
- การตรวจสอบสภาพความเสียหาย: ผู้เชี่ยวชาญสามารถตรวจสอบสภาพความเสียหายของถังอย่างเป็นระบบและเพื่อระบุสาเหตุและขอบเขตของความเสียหายที่เกิดขึ้น
- การกำหนดแผนการแก้ไข: ผู้เชี่ยวชาญสามารถกำหนดแผนการแก้ไขที่เหมาะสมและประสิทธิภาพในการแก้ไขถังที่แตก อาทิเช่น การซ่อมแซมหรือการเปลี่ยนถังใหม่
- การดำเนินการแก้ไข: ผู้เชี่ยวชาญสามารถดำเนินการแก้ไขเหตุการณ์ที่ถังแตกอย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพเพื่อลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น
- การตรวจสอบความปลอดภัย: หลังจากการแก้ไขถังที่แตก ผู้เชี่ยวชาญสามารถตรวจสอบความปลอดภัยของถังอย่างเคร่งครัดก่อนที่จะเริ่มใช้งานอีกครั้ง
- การให้คำแนะนำในการป้องกันเหตุการณ์ซ้ำ: ผู้เชี่ยวชาญสามารถให้คำแนะนำในการป้องกันเหตุการณ์ที่ซ้ำซ้อนให้กับเจ้าของถังเพื่อลดโอกาสในการเกิดถังแตกอีกครั้งในอนาคต
การติดต่อผู้เชี่ยวชาญในกรณีเกิดเหตุการณ์ถังแตกเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่ช่วยให้การแก้ไขเป็นไปอย่างถูกต้องและปลอดภัยยิ่งขึ้น ผู้เชี่ยวชาญเป็นตัวกลางในการรับรู้และการรู้เรื่องในการแก้ไขถังที่แตก การติดต่อกับผู้เชี่ยวชาญในขณะที่เกิดเหตุการณ์เพื่อขอความช่วยเหลือและคำแนะนำเป็นสิ่งที่สำคัญในการรับมือกับสถานการณ์นั้น ๆ
สรุป
ในบทความนี้ เราได้พูดถึงเรื่อง “ถังแตก” ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญในการรักษาความปลอดภัยและควบคุมความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากถังที่แตก การเกิดถังแตกอาจเป็นเหตุการณ์ที่น่ากลัวและอาจมีผลกระทบที่รุนแรงต่อสิ่งแวดล้อมและคน จึงจำเป็นต้องดำเนินการในการป้องกันและแก้ไขถังที่แตกอย่างถูกต้องและมีความรวดเร็ว เช่น การตรวจสอบความเสียหายของถังอย่างใกล้ชิด การบำรุงรักษาถังอย่างสม่ำเสมอ การติดต่อผู้เชี่ยวชาญในกรณีเกิดเหตุการณ์ถังแตก เป็นต้น
FAQ
ถังแตกเกิดขึ้นจากสาเหตุอะไร?
ความแข็งแรงของวัสดุถังที่ไม่เพียงพอ การเกิดความร้อนสูงในถัง หรือการใช้งานที่ไม่ถูกต้องอาจเป็นสาเหตุในการเกิดถังแตกได้
ถ้าถังแตกต้องทำอย่างไร?
หยุดใช้งานถังทันทีและติดต่อผู้เชี่ยวชาญเพื่อดำเนินการแก้ไขอย่างเร่งด่วนและถูกต้อง
วิธีการป้องกันถังแตกคืออะไร?
การเลือกใช้วัสดุถังที่มีคุณภาพ การบำรุงรักษาถังอย่างสม่ำเสมอ การตรวจสอบความเสียหายของถังอย่างใกล้ชิด เป็นต้น เพื่อลดโอกาสในการเกิดถังแตก
ถ้าเกิดเหตุการณ์ถังแตก อาจมีผลกระทบอย่างไร?
เหตุการณ์ถังแตกอาจมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การรั่วไหลของสารเคมีหรือน้ำ หรืออาจก่อให้เกิดอันตรายต่อคนที่อยู่ในบริเตน
ใครควรทำการตรวจสอบถังเพื่อควบคุมความเสี่ยง?
เจ้าของถังหรือผู้ดูแลต้องมีการตรวจสอบถังอย่างใกล้ชิดและปฏิบัติตามขั้นตอนการบำรุงรักษาเพื่อควบคุมความเสี่ยงในการเกิดถังแตก